MaPa Holidays    

              City Guides

                                      

                        

             

Mobirise

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อิตาลี และ
รัฐลิคเทนชไตน์

ดินแดนในฝันของใครหลายๆ คน ที่ตั้งใจไว้ว่าวันหนึ่งจะต้องมาสัมผัสให้ได้ ประเทศเล็กๆ แห่งนี้ได้เปรียบกว่าประเทศอื่นๆในยุโรปอยู่ไม่น้อยในด้านของการท่องเที่ยวเพราะความหลากหลายของภูมิประเทศ ทิวทัศน์ วัฒนธรรม ดินฟ้า อากาศ และอาหารการกิน จากชนหลายเผ่าพันธุ์ในแถบเทือกเขาแอล์ปรวมตัวกันเป็นสมาพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ กับรายละเอียดของแต่ละเมืองหลักที่มาพาทัวร์ไม่อยากให้คุณพลาด และยังมีอีกมากมายในอนาคต ที่มาพาทัวร์จะไปเสาะหามาให้กับทุกท่านที่จะมาพบเห็นและสัมผัสด้วยตัวคุณเอง อาทิเช่นเมืองดังต่อไปนี้

ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ (Switzerland)

เมืองสำคัญ:เมืองซูริค เมืองลูเซิร์น เมืองอินเทอร์ลาเก้น เมืองเบิร์น นครเจนีวา เมืองโลซานน์ เมืองเวเวย์ เมืองมงเทรอซ์ เมืองเซอร์แมท เมืองลูกาโน เมืองกรุยแยร์ เมืองอัพเพนเซล เมืองเซนต์มอริทซ์ เมืองอันเดอร์แมท เมืองสไตน์อัมไรน์ เมืองซังท์กัลเล่น เมืองดาโวส เมืองฟรีบูร์ค เมืองกรินเดอวาลด์ เมืองแมนดริสสิโย เมืองชาร์ฟเฮ้าส์เซ่น เมืองบาเซิล ฯลฯ

เมืองซูริค(Zurich)มีประชากร 370,000 คน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก และเป็นเจ้าของถนนบานโฮฟชตราสเซ(Bahnhofstrasse) ถนนสายชอปปิ้งที่สุดหรูและราคาแพงที่สุดในประเทศ และหน่วยงานที่สื่อต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ของบริษัทช่องโทรทัศน์แห่งชาติตั้งอยู่ที่นี่ ยังเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายรถไฟทั่วสวิสและสนามบินนานาชาติที่คึกคักที่ใหญ่ที่สุดของประเทศโดยทั่วไปเป็นที่แรกสำหรับนักท่องเที่ยว พิพิธภัณฑ์กาแฟ Jacob คลองขนาดเล็กที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของจตุรเทพแบ่งกั้นเมืองระหว่าง Limmat และ Sihl จากสถานีหลัก นำท่านชมโบสถ์โรมันเก่ากรอสมุนเสตอร์ (Grossmunster) หรือขนานนามว่า Great church ซึ่งเป็นโบสถ์คาทอริกที่สร้างด้วยสถาปัตยกรรมโกธิคอย่างงดงาม

เมืองลูเซิร์น (Lucerne)เป็นเมืองตากอากาศที่โด่งดังของสวิส และยังมีความสำคัญในด้านการก่อกำเนิดสมาพันธรัฐ เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า เวียวาลด์สแตร์ทเตอร์เซ (Vierwaldstattersee) อันหมายถึงทะเลสาบที่รวมสี่พันธรัฐหรือสี่จังหวัดชมอนุสาวรีย์สิงโตหินแกะสลักที่ริมหน้าผา เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ และเสียสละที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ทหารสวิสที่เสียชีวิตจากการปกป้องพระราชวังตุยเลอลีสในฝรั่งเศสเมื่อปี 1792 เป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก ชมสะพานคาเพล บริดจ์ (Kapellbrucke) สะพานไม้เก่าแก่ของเมืองที่มีอายุกว่า 700 ปี เป็นส่วนหนึ่งของป้อมปราการประจำเมือง ซึ่งมีภาพวาดประวัติศาสตร์บ่งบอกถึงความเป็นมาของประเทศบนเพดาน และชมหอคอยวอเตอร์ทาวเวอร์(Wasserturm) ทรงแปดเหลี่ยมสร้างเพื่อเป็นที่คุมขังและทรมานนักโทษ และเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้าที่มีชื่อเสียงเช่น นาฬิกา มีดพับ ที่ระลึก ร้านช็อคโกแล็ต

เมืองอินเทอร์ลาเก้น(Interlaken) เมืองที่มีความสำคัญอีกเมืองหนึ่งเมืองหลวงของแบร์นเนอร์โอเบอร์ลันด์ เมืองตากอากาศที่สวยงามและชื่อของเมืองมาจากทำเลที่ตั้งซึ่งอยู่ระหว่าง 2 ทะเลสาบ คือทะเลสาบทูน(Thunersee) และทะเลสาบบรินทซ์ (Brienzersee) เมืองท่ามกลาง เทือกเขาน้อยใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่านจะได้เห็นยอด เขาจุงเฟราอันลือชื่อเขาที่มีความสูงที่สุดในประเทศในยามอากาศดี นาฬิกาดอกไม้ที่สถานคาสิโนซึ่งยังเคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนต์ไทยเรื่อง “วันนี้ที่รอคอย”

เมืองเบิร์น(Bern) นครหลวงอันงามสง่าของประเทศ เมืองมรดกโลกอันล้ำค่าที่ถ่ายทอดและอนุรักษ์มาสู่ปัจจุบัน ทั้งเมืองได้รับการแต่งตั้งและอนุรักษ์ไว้ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกจากองค์การยูเนสโก จากนั้นนำท่าน ชมมาร์คกาสเซ ย่านเมืองเก่าซึ่งปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติคเป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินทางเที่ยวชมอาคารเก่าอายุ 200-300 ปี ชมถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดๆ ของเมืองนี้ ถนนครัมกาสเซเต็มไปด้วยร้านภาพวาด และร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกา ไซท์ กล็อคเคนทวร์มอายุกว่า 800 ปี ที่มีโชว์ให้ดูทุกชั่วโมงที่นาฬิกาตีบอกเวลา มหาวิหารเซนต์วินเซนต์ รัทเฮ้าส (ทาวน์ฮอลล์) เบเร็นกราเบ็น หรือหลุมหมี สัตว์ที่จัดให้เป็นสัญญาลักษณ์ของกรุงเบิร์นเมื่อปี คศ 1191 และยังเป็นเมืองที่มีน้ำพุมากที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรป

นครเจนีวา(Geneva) พันธรัฐที่เล็กที่สุดของสวิสตั้งอยู่ริม ทะเลสาบเลอมอง (Lac Leman) เมืองที่ว่ากันว่าเป็นพันธรัฐสวิสที่แทบจะไม่มีอะไรเป็นสวิสเลย นอกจากนโยบายต่างประเทศ ศาสนาและเป็นที่ตั้งของธนาคารจำนวนมาก เมืองศูนย์กลางของการประชุมนานาชาติ มีองค์การระหว่างชาติตั้งอยู่มากมาย ชมพับลิกสแควร์ ซึ่งแป็นที่ตั้งขององค์การสหประชาชาติ องค์การกาชาดสากล ย่านเมืองเก่า และชม น้ำพุจรวด (Jet d’eau) น้ำพุที่สูงที่สุดในยุโรป ทสามารถส่งน้ำขึ้นท้องฟ้าได้สูงถึง 140 เมตร และเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเจนีวา ชม นาฬิกาดอกไม้ ที่สวนอังกฤษริมทะเลสาบเจนีวาบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาที่มีต่อประเทศสวิสเซอร์แลนด์

เมืองโลซานน์(Lausanne)เมืองตากอากาศที่สำคัญของชาวสวิสเป็นเมืองวัฒนธรรม ที่มีชื่อเสียงและยังเคยเป็นสถานที่ที่สมเด็จย่าท่านทรง เคยประทับ เป็นที่ตั้งศาลสูงของสวิต เซอร์แลนด์และ Olympic Museum พิพิธภัณฑ์โอลิมปิคสากลซึ่งเป็นที่เก็บรวมรวมเครื่องเล่นกีฬาสมัยก่อนและได้รับการบริจาคจากนักกีฬาชื่อดังในสมัยก่อนที่หาดูได้ยากได้ถูกรวมรวมไว้ที่นี่

เมืองเวเวย์(Vevey) เมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบบนฝั่งริเวียร่าของทะเลสาบเจนีวา เป็นที่ตั้งของบริษัทเนสท์เล่ ให้ท่านได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับอนุสรณ์สถานของ ชาลี แชปปริน (Charlie Chaplin) ดาราตลกผู้มีชื่อเสียง และนักประพันธ์ Graham Greene ที่มาใช้ชีวิตในช่วงวาระสุด ท้ายในเมืองนี้เมื่อปี 1889-1977

เมืองมงเทรอซ์(Montreux) ซึ่งได้รับสมญานามว่าเป็น ไข่มุกของริเวียร่าแห่งสวิส คฤหาสน์และโรงแรมหรูของเมืองนี้เรียงรายริมถนนเรียบทะเลสาบที่ยาวถึง 7 กิโลเมตร นำท่านไปชม รวมทั้งนักร้องชื่อดังอย่าง Freddie mercury ซึ่งใช้ชีวิตบรรปลายของชีวิตเมื่อ คศ. 1946-1991เป็นเจ้าของเพลง rock queen made in heaven ชมปราสาทชียอง (Chillon Castle)ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบที่งดงามเด่นเป็นสง่าสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ซึ่งด้านล่างของปราสาทเป็นคุกที่ใช้กักขังทุกคนที่เป็นปฏิปักษ์กับดยุค เช่น บาทหลวงฟรองซัว เดอ โบนีวาร์ถึงหกปีหลังจากกรุงเบิร์นพิชิตดินแดนแถบนี้

เมืองเซอร์แมท(Zermatt) เมืองที่ไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งและเป็นเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าปลอดมลพิษที่ดีของโลก ตั้งอยู่บนความสูงกว่า 1,620 เมตร (5,350 ฟุต) เป็นเจ้าของ ยอดเขาไคลน์มัทเทอร์ฮอร์น สัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านสู่ “สถานีรถไฟสายภูเขากรอนาแกร็ต” จากนั้นนั่งรถไฟขึ้นพิชิตความสูงด้วยการไต่ระดับกว่า 34 ยอดเขาของความสูงที่ 4,000 เมตร เป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟกรอนาแกร็ต สนุกสนานกับลานหิมะกว้างที่จะให้ท่านได้ชื่นชมกับความสวยงาม และบรรยากาศของหมู่บ้านเซอร์แมทสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยานพาหนะในเมืองไม่มีใช้น้ำมันเชื้อเพลิง มีเพียงแบตเตอรี่และแรงงานสัตว์เท่านั้น และยังมีฉากหลังของตัวเมืองเป็นยอดเขาแมททอร์ฮอร์น ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดเขาที่มีรูปทรงสวยที่สุดในประเทศสวิส

เมืองลูกาโน (Lugano) เมืองอิตาลี่ในดินแดนสวิส ติดกับภาคเหนือของอิตาลีตั้งอยู่ริมทะเลสาบแมกจิออเร (Maggiore) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากประเทศอิตาลี อากาศแถบนี้เป็นอากาศแบบเมดิเตอเรเนียน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของสวิสเป็นศูนย์กลางทางด้านการเงินการธนาคารใหญ่เป็นที่ใหญ่ลองจากซูริคและเจนีวา Lugano มาจากคำว่า lucus ซึ่งเป็นภาษาละติน หมายถึงป่าต้องห้ามในศตวรรษที่ 9 เมืองซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของโคโมในช่วงสมัยกลางในการต่อสู้ที่ซับซ้อน ระหว่างมิลานและโคโม และภายหลังระหว่างมิลาน ฝรั่งเศส และสวิส และตกเป็นเมืองที่อยู่ในอำนาจการปกครองของสวิสในปี 1513 จากนั้น Lugano ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Ticino ในปี Lugano เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน Ticino จากใจกลางเมืองมีภูเขาล้อมรอบและทะเลสาบ เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาแอลป์จึงทำให้อากาศอบอุ่นตลอดปี ชมวิหารเก่าแก่ ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ในแบบ สไตล์ Lombardy Italianate วิหาร San Lorenzo ที่สร้างใบแบบศิลปะเรอเนอส์ซอง ชมความงามของผนังรูปสลักและกระจกสีที่มีความงดงามมากเป็นไฮไลท์ของเมืองและยังมีสวนสาธารณะ Belvedere Park ซึ่งเต็มไปด้วยพันธ์ไม้ที่หาดูได้ยาก ต้นไม้แถวนี้จึงมีจำพวกปาล์มหลายชนิด และถ้าอยากได้เห็นเมืองทั้งหมดต้องขึ้นเขา Monte Br่ สูง 925 เมตร ใกล้ตัวเมือง Lugano โดยรถไฟที่ใช้เชือกลากจากสถานี Cassarate นอกเมืองซึ่งจะมองเห็นความงดงามของเมืองทะเลสาบและภูเขาติดชายแดนประเทศอิตาลี

เมืองกรุยแยร์(Gruyeres) เป็นเมืองชนบทที่สวยงาม ภายในเมืองมีถนนใหญ่อยู่เพียงสายเดียว ปูพื้นด้วยหินและห้ามรถแล่นผ่าน สองข้างทางเรียงรายไปด้วยกระท่อมหลังเล็กๆ ตัดไปสู่ทางขึ้นปราสาทกลางดงดอกไม้ชมประสาทกรุยเย่ร์ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในศตวรรษที่ 11 และเป็นปราสาทของท่านเคาร์นที่ปกครองเมืองนี้มานานกว่า 500 ปี ด้วยเหตุที่เมืองตั้งบนยอดเขาจึงทำให้ไม่สามารถขยายเมืองให้ใหญ่ได้ ชมโรงงาน La Maison du Gruyere เป็นต้นตำหรับการผลิตเนยแข็งที่ขึ้นชื่อของสวิสซึ่งมีสีเหลืองอ่อน รสชาติมันเข้มข้น ซึ่งสามารถเข้าชมขั้นตอนการผลิตมีตัวอย่างให้ชิมและสารคดีสั้นๆ ให้ชม นอกจากเนยแข็งแล้วยังผลิตแฮม ครีม สตรอว์เบอร์รี่ และเข้าชมการผลิตช็อกโกแล็ตที่โรงงานของเนสต์เลตั้งอยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านบร็อก

เมืองอัพเพนเซล(Appenzell) หรือเมืองการ์ตูนในนวนิยายของชาวสวิส เป็นเมืองที่รายล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์กับทุ่งหญ้าที่เขียวขจีผสมกับสีสันของดอกหญ้าหลากสี อาคารบ้านเรือนยังคงอนุรักษ์ไว้ในสไตล์ดั้งเดิมซึ่งมีลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวด้วยจั่วหน้าบ้านลักษณะโค้งมน และหลังคาที่ทำจากกระเบื้องที่มีชื่อเสียงของที่นี่ Kulturzentrum Te Ziegelh ซึ่งตามตำนานที่เล่าขานต่อกันมาว่า ลวดลายที่ถูกระบายบนตัวอาคารด้วยช่างศิลปในสมัยก่อนเช่น ลายดอกไม้ ลายตัวเลขคณิตและลายการ์ตูนกับสีสันสดใสที่บรรเลงลงไปซึ่งบ่งบอกอารมณ์และความรู้สึกของเจ้าของอาคารอย่างเห็นได้ชัด ถ้ามาเมืองนี้ดีที่สุดต้องเดินเล่น รอบเมืองและดื่มด่ำกับบรรยากาศและมองหาร้านขาย cakes ซึ่งเป็นขนมพื้นบ้านของที่นี่มีส่วนผสมของน้ำผึ้งท้องถิ่น หรือขนมปังแพร์ (Birnenbrot) และยังมีพิพิธภัณฑ์ Appenzell เล่าถึงประวัติและวัฒนธรรมของเมืองตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ Gallerie Im Blauen Haus ภาพวาดวัวสมัยดั้งเดิมของโบราณ บางครั้งจะเห็นคนท้องถิ่นเกษตรกรเดินเท้าเปล่ากับตุ้มหู dangling จากหู ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย

เมืองเซนต์มอริทซ์(St.Moritz) ตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ที่กั้นพรมแดนระหว่าง สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี อีกทั้งยังเป็นเมืองตากอากาศฤดูหนาวที่แสนสงบ ในปี ค.ศ. 1864 อีกหนึ่งเมืองสกีรีสอร์ที่สวยงามของสวิส ที่บรรดาอัคร-เศรษฐี จากหลายประเทศอย่าง อิตาลี-เยอรมัน-นอรเวย์ ฯลฯ นิยมมาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ ถึงขนาดมาสร้างบ้านพักหรือคอนโด อยู่ที่นี่เพื่อมาเที่ยวทั้งในช่วงฤดูหนาว สำหรับเล่นสกี–หน้าร้อนเพื่อการพักผ่อน ได้สร้างโรงแรมแห่งแรกและเชิญแขกชาวอังกฤษมาพัก ทำให้มีการเกิดกีฬาฤดูหนาว อาทิ สเก็ตน้ำแข็ง บ๊อบสเลด ที่มีการแข่งใน ระดับโลก และเคยเป็นสถานที่จัดงานกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวถึง 2 ครั้ง บรรยากาศของเมืองยังเป็น 2 ระดับคือเมืองเก่าที่ตั้งอยู่บนเขา และเขตเมืองใหม่ที่อยู่ด้านล่าง ช่วยสร้างบรรยากาศให้กับเซนต์มอริทซ์

เมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) เมืองเล็กน่ารักๆและยังเป็นอีกหนึ่งชุมทางรถไฟที่สำคัญของสวิส และยังเป็นหนึ่งในแหล่งเล่นสกีที่สำคัญ ท่านจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่สวยงามของเส้นทางไต่เขาขึ้นสู่อันเดอร์แมท

เมืองสไตน์อัมไรน์(Stein am Rhein) เมืองริมฝั่งแม่น้ำไรน์ที่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองโบราณยุคกลางอันสวยงามเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ เมืองชไตน์อัมไรน์ ได้รับรางวัล the First Wakker Prize เมื่อปี 1972 ในฐานะที่อนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมไว้ได้เป็นอย่างดีเมืองนี้มีประชากรเพียง 3,110 คน มีพื้นที่เพียง 6.06 ตารางกิโลเมตร ชไตน์อัมไรน์ มีฐานะขึ้นกับเมือง Schaffhausen ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองโบราณเล็กๆมีแม่น้ำไรน์ไหลผ่านกลางเมือง และมีถนน สายหลักเพียงสายเดียวอาคารบ้านเรือนปลูกสร้างมาแต่โบราณ โดยบางบ้านจะมีมุขหน้าต่างยื่นออกมา ผนังนอกบ้านมีการวาดภาพสีน้ำปูนเปียก fresco บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ

เมืองซังท์กัลเล่น(St.Gallen) เมืองที่เข้มแข็งทางศาสนานิกายโรมันคาทอลิก เป็นเจ้าของโบสถ์และหอสมุดที่เก่าแก่และดงามที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งอยู่ในเขตเมืองเก่าเป็นโบสถ์สไตล์บาร็อก ชื่อ Stiftsbibliothex (ชทิฟสบิบลีโอเธค)เป็นหอสมุดทราเก่าแก่ที่สุดในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นหอสมุดที่สำคัญระดับโลก มีหนังสือที่หาได้ดูยากและเอกสารที่เขียนด้วยลายมือที่วิจิตรบรรจงในสไตล์ Irish Carolingian และ Ottonian มากด้วยคุณค่า บริเวณทั้งหมดของวิหารแห่งนี้ได้ถูกอนุรักษณ์ให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลกจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี คศ. 1983

เมืองดาโวส (Davos)เมืองหุบเขาแองกาดีน ชมทิวทัศน์ของป่าบีชอันกว้างใหญ่ นำชมเมืองดาโวสที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,560 เมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาสูงชันและชั้นภูเขาที่ลดหลั่นกันและเป็นเจ้าของสกีเลนที่มีระยะทางกว่า 200 ไมล์ ถือเป็นเมืองที่มีความสงบและอากาศดีอีกเมืองหนึ่ง เป็นเมืองที่รู้จักกันทั่วโลกเป็นสกีรีสอร์ทและเป็นสำนักงาน World Economic Forum ที่ผู้นำของจากทั่วโลกพบเพื่อหารือเรื่องนโยบายและการค้า Davos เป็นรีสอร์ทที่สวยงามอย่างเหลือเชื่อในสวิสเซอร์แลนด์

เมืองกรินเดอวาลด์ (Grindelwald) เมืองรีสอร์ทที่แวดล้อมด้วยขุนเขา เป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่า เมืองภูเขาน้ำแข็ง และเมืองแห่งนี้ยังถือว่าเป็นสวรรค์สำหรับนักสกีสวรรค์เดินป่าฤดูหนาวและเส้นทางเดินป่าในฤดูร้อนเกิน 100 กิโลเมตรบริเวณทะเลสาบ Bachalpsee และเส้นทางเดินป่าในฤดูหนาวสกี กม. 120 เส้นทาง เข้าถึงโดยรถยนต์สายจาก Grindelwald สายแรก

เมืองแมนดริสสิโย (Mendrisio Ticino) FoxTown Outlet สำหรับนักช้อปซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองแมนดริสสิโย (Mendrisio Ticino) ซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์และอยู่ไม่ไกลจากประเทศอิตาลี เป็นห้างใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์รวมร้านค้ากว่า 130 ร้าน และสินค้าคุณภาพดี อาทิเช่น ของใช้ในครัวเรือน, eyewear ผลิตภัณฑ์เครื่องหนังอิตาลี, รองเท้า กระเป๋า อุปกรณ์กีฬา แฟชั่นแบรนด์แนมชื่อดังอาทิเช่น D & G, Armani, Burberry, Bally, Diesel, Calvin Klein, Boss, Gant, Prada, Gucci, Prada, Nike,Fendi, Versace,Valentino และอื่นๆอีกมากมาย ราคาจากโรงงานและยังให้ส่วนลดจาก 30% ถึง 70% อีกด้วย

เมืองชาร์ฟเฮ้าส์เซ่น(Schaffhausen) เมืองซึ่งตั้งอยู่พรมแดนระหว่างสวิส-เยอรถูกแวดล้อมด้วยแผ่นดินเยอรมนีถึงสามด้านด้วยกันเป็นต้นกำเนิดของน้ำตกไรน์ เพื่อชื่นชมและสัมผัสกับละอองน้ำใสสะอาดยามที่น้ำไหลตกลงมาจากด้านบนกระแทกสู่เบื้องล่างที่ชมน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยงามและใหญ่ที่สุดของยุโรปมีความสูงประมาณ 23 เมตรกว้าง 150 เมตร ซึ่งมีอายุเก่าแก่ ซึ่งเกิดจากการละลายตัวของหิมะจากเทือกเขาแอลป์ไหลรวมตัวกันมาจากทุกแห่งของประเทศสวิส

เมืองบาเซิล(Basel) หรือ Basle เป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเคมี วัตถุโบราณจากทั่วโลก บาเซิลซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับฝั่งขวาของแม่น้ำไรน์และเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดบนฝั่งของแม่น้ำไรน์ เป็นจุดรอยต่อของสามประเทศคือชายแดนฝรั่งเศสและเยอรมันตรงจุดเชื่อมรอยต่อเรียกว่าไดเล็นเดอร์เอ็ค (Dreilan-dereck) ถ้าเดินวนอยู่ในเขตเครื่องหมายจุดรอยต่อคุณจะก้าวผ่านดินแดนของสวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและเยอรมณีได้ภายในไม่กี่วินาทีโดยไม่ต้องใช้พาสปอร์ต Basel เป็นเมืองที่ทั้งสามประเทศเดินทางผ่านเป็นประจำกว่า 830,000 คนต่อปี เมืองที่มีศิลปะที่แตกต่างกัน Basel เป็นยุโรปทางวัฒนธรรม เกือบ 40 พิพิธภัณฑ์ของชื่อเสียงของโลกเช่น 'Fondation Beyeler' และ 'Kunstmuseum' Basel Theatre stageing ละครโอเปร่าและ โรงบัลเลต์ขนาดเล็กกว่า 25 โรงเป็นเวทีดนตรี มีภาพยนตร์กลางแจ้งขนาดใหญ่กว่า 40 หน้าจอ อันดับเมืองที่มียอดยุโรปในศิลปกรรมตามที่แสดงถึงการเป็นเจ้าภาพ'ของ Art Basel'ศิลปะร่วมสมัยชั้นนำของโลกยุติธรรม

เมืองเบลลิงโซน่า (Bellinzona) ซึ่งอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของมณฑล TICINO ตั้งแต่ปี ค.ศ 1878 เมืองนี้มีความสำคัญทางด้านการคมนาคมและด้านยุทธศาสตร์การทหารเพราะเป็นเมืองที่มีป้อมปราการยุคโรมัน จึงเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากเผ่าต่างๆ สมาพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ได้เข้าครอบครองดินแดนแห่งนี้แทน อิตาลี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1512 เมืองนี้ได้รับสมญานามว่าเป็น "เมืองแห่งปราสาท" เพราะมีปราสาทโบราณและป้อมปราการโรมันโบราณ ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13-15 องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เมืองนี้เป็นมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรมในปี 2000

เมืองเลาเทอร์บลูนเนน (Lauterbrunnen) ตั้งอยู่ในหนึ่งในหุบเขามีรางน้ำตกมากที่สุดในระหว่างเทือกเขาแอลป์หน้าผาหินขนาดยักษ์ถึง 72 แห่ง หุบเขาที่เงียบสงบ ภูเขาโดดเดี่ยวที่ Lauterbrunnen Valley เป็นหนึ่งในด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิสเซอร์ แลนด์ น้ำตกTrmmelbach ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเป็นหนึ่งในมรดกมรดกโลกยูเนสโกทางธรรมชาติ

พิพิธภัณท์บาเล่นเบิร์ก(Ballenberg) สวิสเซอร์แลนด์เหมือนที่เคยเป็นมาในสมัยโบราณมากกว่า 100 อาคารในศตวรรษเก่าจากทั่วประเทศสวิสเซอร์แลนด์ 250 สัตว์ลานฅิดฅ่อกับโรงนาโบราณ สวนต่างๆ เวลา อายุและเขตการสาธิตงานฝีมือท้องถิ่นและกิจกรรมพิเศษมากมายซึ่งจะสร้างความประทับใจของชีวิตชนบทของชาวพื้นเมือง ได้ถูกรวบรวมไว้ที่นี่

ภูเขาที่สำคัญ: ยอดเขาจุงเฟรายร็อค ยอดเขาไคลน์มัทเทอร์ฮอร์น เขากลาเซียร์ 3000 เขาทิสลิส เขาริกิรวมล่องเรือ เขาพิลาทุสรวมล่องเรือ

ยอดเขาจุงเฟรายร็อค(Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในโลกซึ่งมีความสูง 11,333 ฟิต ยอดเขาจุงเฟรายร็อค มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 4,158 เมตร (11,333 ฟุต) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น Top of Europe เป็น 1 ในมรดกโลกทางธรรมชาติ ที่องค์การยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนให้กับความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ชมถ้ำน้ำแข็งที่มีอายุกว่าพันปีและกลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ สนุกสนานกับการเล่นหิมะ จุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรป Sphinx ซึ่งมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร ชมถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Aletsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยาวถึง 33 กโลเมตร และหนา 700 เมตรโดยไม่เคยละลาย อิสระให้ท่านได้สนุกสนานและเพลิดเพลินบนยอดเขาจุงเฟรา หรือ เพิ่มประสบการณ์กับจานหิมะ สำหรับท่านที่ชอบความมันส์ สนุกกันแบบสุดๆ บนลานหิมะและไม่ควรพลาดกับการส่งโปสการ์ดโดยที่ทำการไปรษณีย์ที่สูงที่สุดในยุโรปเดินทาง

ยอดเขาไคลน์มัทเทอร์ฮอร์น(KleinMatterhorn) ยอดเขาทรงปิรามิดที่มีปลายคุ้มงอเหมือนขอ แปลกตาจนวอล์ทดีสนีย์นำไปเป็นแบบเครื่องเล่น Big Thunder ในสวนสนุกดีสนีย์แลนด์ ถึงสถานีบนยอดเขาที่มีความสูง 4,478 เมตร หรือประมาณ 12,000 ฟุต มีลานกว้าง สัมผัสหิมะ และชมความงามของยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น ตลอดจนทิวทัศน์โดยรอบที่สวยงามยิ่งนัก

เขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) เมืองโกล เดอ ปิยง (Col De Pillon) เมืองที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน นำท่านขึ้นกระเช้ายักษ์รุ่นใหม่ ล่องลอยกลาง ทัศนียภาพที่งดงามสู่บริเวณ กลาเซียร์ เลอ ไดเบอเร็ต หรือที่ได้รับการขนานนามใหม่ว่า กลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) นำท่านสนุกสนานกับ การนั่งเก้าอี้เลื่อนไฟฟ้าที่นักสกีใช้เพื่อการนั่งขึ้นเขาสัมผัสประสพการณ์ที่ตื่นเต้นสนุกสนานแต่ปลอดภัยนั่งรถสโนว์บัสลุยหิมะที่ขาวโพลนสู่จุดชมวิวทัศนียภาพที่งดงามหาก อากาศดี ท้องฟ้าสดใสจะสามารถ มองเห็นยอดเขาจุงฟราวหรือแมทเทอร์ฮอร์นได้จากที่นี่

เขาทิสลิส(Titlis) เมืองแองเกิลเบิร์ก การเดินทางขึ้นเขาด้วยกระเช้าไฟฟ้าโรแตร์ ซึ่งเป็นกระเช้าที่สามารถหมุดรอบตัวเองได้ตัวแรกของโลก ชมทิวทัศน์ของเทือกเขาแอลป์ได้ตลอดเส้นทางจนถึงยอดเขาทิสลิสที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 3,028 เมตร หรือ 10,000 ฟิต ซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะที่ไม่มีวันละลายในฤดูหนาว ชมถ้ำน้ำแข็ง Glacier Grottoที่มีความยาวถึง 130 เมตร และมีความลึกที่สุดถึง 15 เมตร ให้ท่านได้สัมผัสสนุกสนานกับหิมะและกระเช้าเก้าอี้ (แชร์ลิฟ)

เขาริกิ (Rigi) รวมล่องเรือ พาท่านเดินทางไปที่ท่าเรือที่เมืองลูเซิร์น เพื่อขึ้นเรือ UNTERWALDEN เรือโดยสารขนาดใหญ่ซึ่งจุคนได้ถึง 3oo คน เป็นเรือกลไฟใช้ใบพัด paddlewheel Steamers ล่องทะเลสาบ ที่เรียกว่า Vierwaldstattersee หรือ ทะเลสาบของสี่ "Forest Cantons" ซึ่งเป็น ทะเลสาบที่สวยและใหญ่อีกทะเลสาบหนึ่งในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งติดกับสี่จังหวัดสำคัญ ตื่นตาตื่นใจกับภูเขารอบด้านและธรรมชาติบ้านตามไหล่เขาบนชายฝั่งสองข้างของทะเลสาบ ล่องเรือจากเมืองลูเซิร์น ไปยังหมู่บ้าน เมืองวิทซ์เนา(vitznau) เพื่อขึ้นพิชิตยอดเขาริกิซึ่งมีความสูง 6,ooo ฟุต หรือ 1,800 เมตร ด้วยรถกลไฟใช้ระบบไอน้ำ ซึ่งเป็นรถจักรที่เก่าแก่ที่สุดสร้างเมื่อ ปี 1858 แต่ได้รับบูรณะเป็นอย่างดี ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการชื่นชมชมธรรมชาติตลอดการเดินทางจนถึง Mt. Rigi klum เขาริกิ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นทัศนึยภาพอันงดงามที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ในจะมองเห็นทิวทัศน์รอบด้านได้ไกลถึง 300 กิโลเมตร ในวันที่อากาศแจ่มใส อย่างคำบรรยายของนักเขียนชื่อดังอย่างเกอเธ่ วิกตอร์ ฮูโก และมาร์ค ทเวน พร้อมเลือกรับประทานอาหารพื้นเมืองในตอนกลางวันบนเขาตามอัธยาศัยจ จากนั้นพาท่านนั่งกระเช้าไฟฟ้าลงมายังเมือง Wiggis(วิกกิส) ซึ่งเป็นเมืองเล็กที่ยังคงอนุรักษ์รูปทรงบ้านสไตล์ชาเล่ซึ่งมีอายุนับ 100 ปี ขึ้นเรือกลับเข้าสู่เมืองลูเซิร์น

เขาพิลาทุส (Pilatus) รวมล่องเรือ พาท่านเดินทางไปที่ท่าเรือที่เมืองลูเซิร์น เพื่อขึ้นเรือ UNTERWALDEN เรือโดยสารขนาดใหญ่ซึ่งจุคนได้ถึง 3oo คน เป็นเรือกลไฟใช้ใบพัด paddlewheel Steamers ล่องทะเลสาบ ที่เรียกว่า Vierwaldstattersee หรือ ทะเลสาบของสี่ "Forest Cantons" เป็น ทะเลสาบที่สวยที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์และใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศซึ่งติดกับสี่จังหวัด ตื่นตาตื่นใจกับภูเขารอบด้านและธรรมชาติบ้านตามไหล่เขาบนชายฝั่งสองข้างของทะเลสาบ จนถึงสถานนีรถไฟ Alpnachstad จากนั้นนำท่านขึ้นพิชิตยอดเขา พิลาทุส (Pilatus) ซึ่งเป็นยอดเขาที่มีความสูงเป็นอันดับสองของเมืองลูเซิร์น สูงถึง 2132 เมตรหรือ 7000 ฟุต ซึ่งมีความชันที่สุดในโลกในการเดินทางด้วยรถไฟล้อเฟืองไต่เขาลาดชันจากสถานีรถไฟ Alpnachstad เป็นภูเขาที่ติดกับสามจังหวัด คือ Obwalden, Nidwalden และ Lucernecและมีการแบ่งสิทธิการครอบครองเหนือภูเขาแบ่งระหว่างจังหวัดสูงสุด อยู่ในสิทธิ Obwalden ในชายแดนกับ Nidwalden ซึ่งบนยอดเขาทำให้ท่านสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบ Vierwaldstattersee ได้รอบถึง 360 องศา ทางเดินรอบยอดเขามากมายเพื่อให้ท่านชมวิวได้โดยรอบ พื้นที่แถบนี้ยังคงรักษาประเพณีการโห่ร้อง(Yodelling) โยนธงและการเป่าเขาสัตว์ให้นักท่องเที่ยวได้ชม พร้อมเลือกรับประทานอาหารพื้นเมืองในตอนกลางวันบนเขาตามอัธยาศัย จากนั้นตอนบ่ายเดินทางลงเขาด้วย Cableways การนั่งกระเช้า ในระยะทางที่ยาวที่สุดในสวิส 0.88 ไมล์ หรือ 1,350 เมตร

รถไฟนำเที่ยว:รถไฟกลาเซียร์เอ็กซเพรส รถไฟสายโกลเด้นพาส รถไฟเบอร์นิน่าเอ็กซ์เพรส

รถไฟกลาเซียร์เอ็กซเพรส (GLACIER EXPRESS) อันเลื่องชื่อที่คนทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ซึ่งมีประวัติมายาวนานถึง 75 ปีที่ท่านจะได้ชื่นชมกับทัศนียภาพที่สวยงามของหุบเขา-ทุ่งหญ้าและหมู่บ้านเล็กๆน่ารัก และหิมะขาวสะอาดที่ปกคลุมอยู่บนยอดเขาสูงตลอด 3 ชั่วโมงของการเดินทางที่ท่านจะประทับใจในความสวยงามจุดหมายของการเดินทาง ณ. หมู่บ้านเซอร์แมท สกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากเป็นเมืองที่ปลอดมลพิษทางอากาศเพราะยาน พาหนะในเมืองรถไฟสายโกลเด้นพาส(Goldenpass) สถานีรถไฟมองโทรซ์เพื่อโดยสารรถไฟสายท่องเที่ยวเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดอีกสายหนึ่งในสวิส โกลเด้นพาสไลน์จากมองโทรซ์ผ่านเมืองกัสตาร์ด(Gstadd)อันสวยงามจนถึงปลายทางที่สถานี เมืองซไวร์ซิมเม่น(Zweisimmen )จากบรรยากาศริมทะเลสาบสู่เนินเขาทุ่งหญ้าเขียวขจี ที่ท่านจะได้ชื่นชมอีกบรรยากาศที่สวยงาม

รถไฟเบอร์นิน่าเอ็กซ์เพรส ในช่วงที่สวยที่สุด จากพอนเตรซิน่ารถไฟจะแล่นผ่านเกลเชอร์ ข้ามเทือกเขาแอลป์ที่ระดับความสูง 7,390 ฟิต สู่ประเทศอิตาลี ท่านจะได้สัมผัสและพูดได้เต็มปากว่าได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ท่านจะตื่นตาตื่นใจทิวทัศน์กับสองข้างทางจะเปลี่ยนไปทุกนาทีอุโมงค์ลอดใต้ภูเขาทั้งลูกสะพานสูงข้ามเหวลึกและธารน้ำแข็งที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมจะช่วยเสริมความเพลิดเพลินให้ท่านตลอดการเดินทาง และส่งท้ายการเดินทางด้วยการที่รถไฟทั้งขบวนวิ่งเป็นวงกลมคล้ายบันไดวนเพื่อลดระดับความสูงอย่างรวดเร็วสู่ปลาย ทาง ณ เมืองโพชิอาโว่ จากนั้นเดินทางต่อโดยรถยนต์ผ่านเมืองทิราโน่ในประเทศอิตาลีสู่พรม แดนอิตาลี่-สวิสเซอร์แลนด์ เข้าสู่เมืองลูกาโน

ประเทศอิตาลี(Italy)

เมืองโคโม Como มุมสวยของทะเลสาปโคโมคือฉากที่ใช้ถ่ายทำเรื่อง สตาร์วอร์

เป็นเจ้าของทะเลสาบ Lake Como (Lago di Como) ซึ่งมีความยาว 50 กม.และลึกมากจุดที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 410 เมตร เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอิตาลี ซึ่งไม่ไกลจากมิลานในภาคเหนือของอิตาลี เช่น ทะเลสาบโคโมได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยของโรมัน น้ำทะเลสีฟ้า ผ่อนคลายริมทะเล สาบในลาดหญ้าเขียวชอุ่มเหนือทะเลสาบ สัมผัสกับวัฒนธรรมอิตาเลียนร่วมสมัย สิ่งที่นิยมทำของนักท่องเที่ยวคือการเดิน ขี่จักรยาน และว่ายน้ำ เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา บ้านตามไหล่เขาประดับด้วยดอกไม้หลากชนิดและรื่นรมย์กับศูนย์ประวัติศาสตร์น่าสนใจมีโบสถ์โรมันมากมายเช่นDuomoเป็นโบสถ์โรมันที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้อาร์ตแกลเลอรี่เมือง Pinacoteca ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางอุตสาหกรรมผ้าไหมของอิตาลีที่มีชื่อเสียงยอดเยี่ยม Rosemalee เป็นผ้าจองปาตูร์เนื้อบางเบาเนียนนุ่มผืนใหญ่มากแต่เมื่อพับแล้วสามารถปั้นเป็นก้อนกลมแค่กำมือเดียวเมืองหลักๆในโคโม่ก็คือ เมืองโคโม่ เมืองเบลลักโจ (Bellaggio) เมืองเวเรน่า (Verana) เมืองเมนักโจ (Menaggio) ทุกเมืองอยู่ติดทะเลสาป แม้ว่าโคโม่จะเป็นเมืองขนาดใหญ่สุด แต่ก็สามารถเดินเที่ยวรอบเมืองแบบสบายๆได้ในหนึ่งวัน

โบสถ์ประจำเมือง( Duomo di como)เป็นมหาวิหาร Como ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์โดดเด่นที่สุดของอิตาลีตอนบน เป็นโบสถ์โกธิคล่าสุดสร้างขึ้นในอิตาลีในปี 1396 สิบปีหลังจากก่อตั้งโบสถ์ใหญ่ของมิลาน งานก่อสร้างแล้วเสร็จใน 1770 มีระดับความสูงของโดมโดย Filippo Juvara ที่ 87 เมตรการก่อสร้างของโบสถ์เริ่มใน 1396 และจะสิ้นสุดในปี 1740 ถูกสร้างขึ้นในช่วงหลายศตวรรษมีหลายรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันคุณสามารถ ดูร่องรอยของบาร็อค, โกธิค, ภาษาโรมันและลักษณะ Renaissance ในโบสถ์ 75 เมตรมีโดมแปดเหลี่ยมสูงด้านบนเป็นด้านหน้าซึ่งสร้างขึ้นในปี 1457 จะเห็นหน้าต่างขนาดใหญ่เพิ่มขึ้นสูงกว่าทางเข้าและรูปปั้นมากมายตัวโบสถ์สร้างด้วยหินอ่อน

เกาะIsola dei Pescatori เป็นเกาะของ Lago Maggiore ในภาคเหนือของอิตาลี ใหญ่เป็นหนึ่งในสามของเกาะเป็นที่รู้จักกันว่า Isola Superiore และมีประชากรประมาณ 50 คนและเป็นคนที่อาศัยอยู่ตลอดทั้งปี เกาะกว้างประมาณ 350 เมตรยาว 100 เมตรโดยกว้าง ถนนแคบ สามารถเดินเล่นที่ล้อมรอบเกาะได้ มีน้ำท่วมบ่อยและบ้านที่สร้างขึ้นจะสร้างเพื่อให้สามารถเป็นร้านอาหารในขณะที่อาชีพดั้งเดิมของคนที่นี่คือการประมง ยังคงมีอยู่ในท้องถิ่น การท่องเที่ยวได้กลายเป็นศูนย์กลางของชีวิตทางเศรษฐกิจของเกาะเป็นเสน่ห์งดงามที่ได้ทำ Isola dei Pescatori โดยนิยมเดินทางมาเที่ยวระหว่างวันและพักค้างคืนได้ที่โรงแรมบนเกาะ ร้าน อาหารและร้านค้าของที่ระลึกขายสินค้าหัตถกรรม

เบลลาโน่ วิลล่าคาร์ลอตต้า วิลล่าคาร์ลอตต้า ปราสาทฤดูร้อนที่สร้างขึ้น คศ.1690 เมื่อสร้างเสร็จมีการขายเปลี่ยนมือจน คศ.1843 เจ้าหญิงมารีแอนน์ เป็นผู้ครอบครองและได้ มอบให้เป็นของขวัญแต่งงานแก่บุตรสาวของเธอคือเจ้าหญิงคาร์ลอตต้า ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปราสาทหลังนี้จึงได้ถูกเรียกตามชื่อของเจ้าหญิงว่า "วิลล่าคาร์ลอตต้า" นอกจากตัวอาคารจะยังคงได้รับการดูแลอยู่ในสภาพที่ดีแล้ว จุดเด่นของปราสาทที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 70,000 ตารางเมตร ทำให้มีพื้นที่สวนขนาดมหึมาและตกแต่งด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์ ซึ่งสามารถเดินเที่ยวชมได้ตามความต้องการ

รัฐลิคเทนชไตน์(Liechtenstein)

วาดูช(Vaduz) มีฐานะเป็นรัฐอิสระซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศออสเตรียและสวิส เป็นประเทศที่เล็กมากมีพื้นที่เพียง 158 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งมีเมืองหลวงชื่อ วาดูช(Vaduz) เป็นเมืองที่มีนักธุรกิจและบริษัทตั้งขึ้นจำนวนมากกว่า 30,000 บริษัทเป็นเมืองที่ร่ำรวยติดอับดับของยุโรป พาท่านถ่ายภาพปราสาทวาดูซซึ่งเป็นที่ประทับของพระมหากษัติร์และพระราชินี ซึ่งพระมหากษัติร์ของเราได้เคยเสด็จมาพักที่นี่ด้วย และยังเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับดวงตราไปรษณียากรที่มีชื่อเสียงระดับโลก

ประเทศเยอรมนี (Germany)

เมืองทิทิเซ่ ประเทศเยอรมัน ในเขตอุทยานแห่งชาติแบล็คฟอเรสท์ นำท่านสู่ เมืองทิทิเซ่ เมืองริมทะเลสาบเล็กๆ ใจกลางเขตป่าดำ ให้เวลาท่านเดินเล่นพักผ่อน ช้อปปิ้ง ตามอัธยาศัย เพราะทิทิเซ่นับเป็นย่านที่มีการผลิตนาฬิกากุ๊กกรูมากว่า 400 ปี จนถึงปัจจุบันนับว่าเป็นแหล่งผลิต นาฬิกากุ๊กกรู ที่คุณภาพดีมากๆ ของเยอรมัน รวมทั้งอีกหนึ่ง ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน ที่สำคัญ ขาหมูรมควัน ต้นตำรับที่ทำมาเพื่อการถนอมอาหารในช่วงหน้าหนาว เมืองไฮเดลเบิร์กเมืองสำคัญทางการศึกษา และยังเป็นเมืองพระราชสมภพของรัชกาลที่ 8 นำท่านขึ้นชม ปราสาทแห่งไฮเดล เบิร์ก ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำเนคการ์ ที่สร้างในหลายยุคสมัย ปัจจุบันยังเป็นที่เก็บของถังไวน์ยักษ์ ขนาด 221,726 ลิตร ชมสะพานโอลด์บริดจ์ หรือคาร์ลส ทีโอดอร์ซึ่งเป็นจุดชมวิวปราสาทแห่งไฮเดลเบิร์กที่สวยที่สุด

เมืองแฟรงค์เฟิร์ท เมืองสำคัญทางการเงิน การธนาคารของเยอรมัน นำท่านชมบริเวณ จัตุรัสเมืองเก่า หรือ ย่านโรเมอร์ ที่ตั้งของ ศาลาว่าการนครแฟรงค์เฟิร์ท วิหารโดมแห่งแฟรงค์เฟิร์ท และบ้านเรือนในอดีตที่ อนุรักษ์ไว้อย่างสวยงาม

ประเทศฝรั่งเศส (France)

เมืองอีวัวร์ (Yvoire) เป็นหมู่บ้านของเกษตรกรและบ้านชาวประมงน้อยชมเมืองโบราณสมัยยุคกลาง สวยงามคลาสสิคมาก Bourg ยุคกลางนี้ตั้งอยู่บนทางแยกของทะเลสาบน้อยจากทะเลสาบใหญ่ ที่ยังคงมีคุณสมบัติบาง elemants สำคัญของจตุรเทพของศตวรรษที่ 14 ปราสาท ประตูเครื่องป้องกันและ gateways เสริม คูน้ำและหมู่บ้านเก่าแก่ที่สร้างในยุคกลางที่สวยงามของฝรั่งเศสมีอายุกว่า 700 ปี และยังได้รับรางวัลชนะเลิศในปี 2006 ในการ

ดูแลรักษาได้ดีที่สุดตัวบ้านเรือนถูกประดับด้วยดอกไม้ไม่ว่าจะฤดูไหนก็ตามจนได้รับรางวัล

"FourFlowers" ระดับยุโรปและได้รับ International Trophy for Landscape และพืชสวน เป็นหมู่บ้านตัวอย่างในฝรั่งเศสในปี 2002 ชมโบสถ์ St. Pancras สร้างในศตวรรษที่ 11 ได้ปรับปรุงซ่อมแซมและสร้างใหม่หลายครั้งชมโดมรูปของหอมที่มีลักษณะของSavoyardและ Piemon tese สถาปัตยกรรมทางศาสนาของปลายศตวรรษที่ 19 ทำด้วยแผ่นดีบุกมี จากนั้นเกิดสนิมและเปลี่ยนเป็นใช้สแตนเลสและทองแทนในปี 1989

เมืองเอเวียง (Evian) อยู่ห่างจากเมืองโลซานน์เพียง 13 กิโลเมตร โดยมีทะเลสาบเจนีวาขั้นกลาง ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป คนสวิสกับฝรั่งเศสใช้เป็นจุดข้ามไปมาหาสู่กัน หรือไปทำงานต่างแดนแบบเช้าไปเย็นกลับ บรรยากาศทะเลสาบและขุนเขาสูงเสียดฟ้า คือเสน่ห์ของฝรั่งเศสตะวันออกแถบเทือกเขาแอลป์ ซึ่งเทือกเขายิ่งใหญ่นี้เป็นจุดสำคัญของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ที่เมืองเอเวียงนี้เองที่ทำให้คนทั่วโลกรู้ว่าเทือกเขาแอลป์ไม่ได้มีแค่ทิวทัศน์ที่สวยงามเท่านั้น เมืองเอเวียงเป็นเมืองเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก หลังการค้นพบแหล่งน้ำแร่คุณภาพ ทำให้เมืองนี้เริ่มเปลี่ยนไปจากป้อมปราการและชุมชนค้าขายชายแดนสู่มิติใหม่และปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เมื่อมีการพัฒนาน้ำแร่ของเมืองขึ้นเป็นธุรกิจระดับโลกกว่า 200 ปี ทุกวันนี้เอเวียงคือน้ำดื่มที่มียอดจำหน่ายสูงสุดทั่วโลกถึงกว่า1,500ล้านลิตรใน 129 ประเทศ น้ำแร่ ธรรมชาติเอเวียงมีต้นกำเนิดจากเทือกเขาแอลป์ในเขตประเทศฝรั่งเศสใช้เวลากว่า 15 ปี ในการกลั่นกรองผ่านชั้นหินที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ จนกระทั่งได้น้ำแร่ที่สะอาดบริสุทธิ์ ไหลรินสู่เมืองเอเวียงเลส์แบงส์ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ บนฝั่งทะเลสาบเจนนีวาในปี ค.ศ. 1789 ที่เมืองเอเวียง ได้มีการค้นพบแหล่งน้ำธรรมชาติบริสุทธิ์โดยชายคนหนึ่งชื่อ มาคีส์ เดอ เลซแซร์ ซึ่งป่วยเป็นโรคนิ่วที่กรวยไตและอยู่ในการหลบหนีจากการปฏิวัติฝรั่งเศส ได้หยุดพักดื่มน้ำดับกระหายที่น้ำพุเซนต์ แคทเธอรีน จากการดื่มเป็นประจำทำให้อาการป่วยของ มาคีส์ เดอ เลซแซร์ ทุเลาอย่างน่าอัศจรรย์สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นและจากการค้นพบนี้เองทำให้น้ำแร่เอเวียงเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

เมืองอันเนอซี(Annecy) เมืองหลวงของเขตชาววอยตอนบน เป็นเมืองที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ ทะเลสาบ ภูเขา ทำให้ที่นี่ปราศจากมลพิษเป็นเมืองที่ผลิตน้ำแร่ชั้นนำของโลก นำท่านชมความน่ารักของ เมืองบริเวณ ย่านเมืองเก่าที่แสนโรแมนติคด้วย ตึกทรงโบราณสีสวยสดเป็นแนวยาว สองฟากฝั่งคลองที่มีน้ำใสสะอาดและเต็มไปด้วยร้านขายของที่ระลึก ชมISLAND PALACE Palais de l'isle สัญลักษณ์ของเมือง อันเนอซี ซึ่งตั้งอยู่กลางแม่น้ำ

เมืองชาโมนีซ์ (Chamonix) เมืองท่องเที่ยวชื่อดังและเป็นเมืองพักตากอากาศ ที่อยู่ติดกับเทือกเขาแอลป์และสวิสเซอร์แลนด์ ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาสูงที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี เป็นที่นิยมของคนฝรั่งเศส นำท่านชมเมืองชาโมนีซ์ ซึ่งมีวิวภูเขาสูงตระหว่านเป็นฉากธรรมชาติ โดยเลาะตามแม่น้ำ ที่เกิดจากการละลายของหิมะบนเทือกเขา ชมอาคารบ้านเรือน ที่มีสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ ร้านค้าที่มีมากมาย แวะถ่ายรูปคู่กับรูปปั้นของนายแพทย์ PACCARD และชาวเขา BALMAT ผู้ปีนยอดเขามองบลองค์สำเร็จเป็นคู่แรก

ยอดเขามองบลองก์ ขึ้นรถกระเช้าลอยฟ้าเพื่อขึ้นสู่ สถานีเอกุยย์ดูมีดี (Aguille du Midi) ระหว่างขึ้น ท่านสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามที่แวดล้อมไปด้วยหิมะและต้นไม้ หรือวิวทิวทัศน์ของเมืองชาโมนีซ์ ถึงยอดเขา Aguille du Midi ข้ามสะพานลอย เพื่อเดินทางสู่ลิฟท์ที่เจาะในอุโมงค์ ระยะทาง 42 เมตร ขึ้นสู่ลานกว้างบนยอดเขา ชมยอดเขามองบลองก์ ที่ถือว่าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ในยุโรป สูงถึง 4,807 เมตร

นครปารีส

เมืองบลาเซิล,ซูริค,เบิร์น โดยรถไฟด่วน TGV ซึ่งเป็นรถไฟ ที่ทำความเร็วได้ถึง 280 กม. ต่อชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งจัดว่าเป็นรถไฟที่เร็วที่สุดในทวีปยุโรปขบวนหนึ่ง พักผ่อนอริยาบถบนรถไฟกับที่นั่งแสนสบาย ระหว่างทางให้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ถึง สถานีรถไฟ Gare Du Lyon ในนครปารีสแล้ว เดินทางเข้าสู่ อิลเดอลาซิเต้ ศูนย์กลางของกรุงปารีส แหล่งกำเนิดเมืองที่มีความสำคัญมากว่า 1,000 ปี นำท่านเดินทาง โดยรถไฟใต้ดิน (Metro) ให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวปารีเซียง ว่ากันว่า ระบบรถไฟใต้ดินของปารีส เป็นระบบที่ดีที่สุดในโลก มีเส้นทางครอบคลุมถึง 16 สาย 300 กว่าสถานี ซึ่งแต่ละสถานีรถไฟมีการออกแบบและแตกต่างด้วยศิลปะรูปแบบที่โดดเด่นในทีมส์ของตนเอง

พระราชวังแวร์ซายน์(Versailles) พระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของปารีสไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร พระราชวังแวร์ซายน์ อดีตพระราชวังในยุคสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่14 ที่สร้างได้อย่างวิจิตรบรรจงจนกลายเป็นต้นแบบของพระราชวังอื่นๆมากมาย ชมความงามของห้องต่าง ๆ อาทิ ห้องอพอลโล ห้องประวัติ ศาสตร์ฮอลล์ออฟมิเรอร์ ที่เยอรมนียอมลงนามในสนธิสัญญาสงบศึกเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 1 ห้องนโปเลียน แต่ละห้องของพระราชวังล้วนมีค่าด้วยภาพเขียนสีแบบเฟรสโก้ โดยช่างฝีมือเอกชาวฝรั่งเศส ศิลปวัตถุล้ำค่ารวมถึงเฟอร์นิเจอร์มากมายที่เป็นต้นแบบเฟอร์นิเจอร์หลุยส์ที่โด่งดังไปทั่วโลกควรค่าแก่การยกย่องให้เป็นพระราชวังที่งดงามล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ชมภายในพระราชวังทั้งในส่วนของกษัตริย์ และพระราชินีรวมทั้งห้องโถงกระจกที่ทูตจากสยามได้เคยเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่14 และเดินเล่นบริเวณอุทยานด้านหลังของพระราชวัง

Chic Boutique Outlet ที่ Marche de la Valley ตะลุยช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมของยุโรปที่เป็นศูนย์รวมสินค้าคุณภาพดี ราคาดิสเคานท์จากบูติคแบรนด์เนมกว่า 50 ยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Burberry, Lowe, Polo, Dolce & Gabbana, La Coste, Longchamp, Timberland, Kipling, Miss Sixty, Energies, Camper

Palais Royal เขตอาคารและพระราชวังเก่า ล้อมรอบด้วยสวนสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานราชการที่สำคัญ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม หอสมุดประจำชาติ ร้านค้า ร้านกาแฟฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม คณะบัลเล่ย์ สตูดิโองานศิลปะ และงานประติมากรรมกลางแจ้งที่ลือชื่อของที่นี้ ดื่มกาแฟในร้านบิสโทร ร้านกาแฟสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ

จัตุรัสทรอคาเดโร Trocadero อันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์สถานออร์เซย์ (Musee d’Orsay) แหล่งรวมงานศิลปะอิมเพรสชั่นนิสชั้นนำของโลก และเพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตของคนเมือง และนครปารีสที่ยังคงไว้ด้วยสไตล์ และแฟชั่นต่างๆ มากมาย

ประตูชัยแห่งจักรพรรดินโปเลียน ณ.จตุรัส ชาร์ลส เดอโกล์ล ถนนชองเอลิเซ่ ที่โด่งดัง จัตุรัสคองคอร์ต ที่ตั้งของเสาหินโอเบลิสจากวิหารลุกซอร์ในอียิปต์โดมอินวาลิดสถานที่เก็บพระศพจักรพรรดินโปเลียนถนนชองป์เอลิเซ่ ถนนแฟชั่นที่มีชื่อเสียง ชมความยิ่งใหญ่ของ ประตูชัย หรือ Arc De Triumph สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่จักรพรรดินโปเลียน ถนนแฟชั่นชองซิเลเซย์ (Champ Elysees) ถนนช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง เช่น Louis Vuitton, Chanel Rolex ฯลฯ

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์(Mus้eum Louvre) ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำแซนน์ สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เดิมเป็นที่ตั้งป้อมปราการ และเป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ฝรั่งเศสหลายพระองค์ ด้านหน้าเป็นปิระมิดแก้ว ภายในเป็นที่สะสมงานศิลปะ ตั้งแต่พระเจ้าฟรังค์ซัวร์ที่ 1 เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงที่สุด เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมากกว่า 8.3 ล้านคนต่อปี ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์คาเปเทียง ตัวอาคารเดิมทีเคยเป็นพระราชวังหลวง ซึ่งปัจจุบันเป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลกเป็นจำนวนมาก เช่น ภาพเขียนโมนาลิซา The Virgin and Child with St. Anne, Madonna of the Rocks ผลงานของลีโอนาร์โด ดาวินชี หรือภาพ Venus de Milo ของอเล็กซานดรอสแห่ง Antioch

สวนตุยเลอรี่ (Jardin des Tuileries) สวนสวยในรูปแบบฝรั่งเศสแท้ตั้งอยู่ระหว่างประตูชัยคาร์รูสเซล (Carroussel) ลานคองคอร์ด และเขื่อนริมแม่น้ำ ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดแสดงงานประติมากรรมกลางแจ้ง รูปปั้น ม้าไม้ และในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่รองรับนักการเมือง และที่ทำการของสภาสูงของฝรั่งเศส

ช้อปปิ้งย่านโอเปร่า ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยต หรือ เลือกซื้อแบรนด์เนมดังอย่าง หลุยส์วิตตองค์ แอร์เมส ฯลฯ แบบไม่ต้องรีบร้อน อิสระให้ท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าแบรนด์ดัง อาทิ น้ำหอม เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องสำอาง ณ ร้าน Duty Free หรือ ห้างสรรพสินค้าชื่อดังอาทิ แกลลารี-ลาฟาแยตต์

เที่ยวดิสนีย์แลนด์ปารีส เมืองมาร์น ลา วาเล (Marne La Vallee) ที่ตั้งของ สวนสนุกยูโรดิสนีย์ (Disneyland Paris) ที่รวบรวมความหฤหรรษ์ไว้ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับครอบครัวอย่างเต็มอิ่ม ภายในมีเครื่องเล่นถึง 12,000 ชิ้น และเครื่องเล่นบางชิ้นมีเฉพาะในฝรั่งเศสที่เดียว ให้ท่านและครอบครัวได้สนุกไปกับเครื่องเล่นของวอล์ท ดิสนีย์ที่เด็กๆ หลงใหล อาทิ บ้านผีสิง It’s Small World, หรือผจญภัยไปในดินแดนซาฟารี เครื่องเล่นอันเร้าใจกับ Big Mountain, Splash Mountain, และโลกแห่งอนาคตด้วยเครื่องเล่นอันทันสมัย Star Tour หรือชมภาพยนต์ 360 องศาที่จัดแสดงไว้อย่างน่าชม

โบสถ์นอร์ธเตรอดาม เป็นศิลปะแบบโกธิค ที่มีความงดงามด้วยยอดปลายแหลมของโบสถ์ และรูปปั้นด้านหน้าของพระแม่มารี อันเป็นที่ศรัทธาของคริสต์ศาสนิกชน โบสถ์แห่งนี้ยังตกแต่งด้วยศิลปะแบบกระจกสี หรือ สเตนแกลส ที่งดงามยิ่ง อีกทั้งยังเคยใช้เป็นสถานที่ราชาภิเษกนโปเลียนขึ้นครองราชย์

ล่องแม่น้ำแซนน์เรือบาโตมูซ เพื่อชมสถานที่สำคัญคู่บ้านคู่เมืองสองฝั่งของแม่น้ำแซนน์ โบราณสถานและอาคารที่เก่าแก่สร้างด้วยศิลปะแบบเรอเนสซองส์ ควรค่าแก่การอนุรักษ์ และสร้างภาพให้ปารีสโดดเด่นเป็นมหานครที่งดงามแห่งหนึ่งของโลก ชมวิวทิวทัศน์ของเกาะอิล เดอ ฟรองซ์ สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน โบสถ์นอทเทรอดามซึ่งยังคงอนุรักษ์ ความงดงามคลาสลิค ไว้ได้อย่างงดงามน่าประทับใจ ชมวิวทิวทัศน์ของเกาะอิล เดอ ฟรองซ์ สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือน

หอคอยไอเฟล(Eiffel tower) เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของนครปารีส เลิศหรู อลังการ โรแมนติค ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีสสูง 984 ฟุต สร้างด้วยโครงเหล็กทั้งหมดเพลิดเพลินกับการชมวิวทั่วกรุงปารีส

Contact Us




© Copyright 2009 - 2024 MaPa Holidays. All Rights Reserved.

Built with Mobirise